เพิ่งซื้อบ้านใหม่ในกรุงเทพฯ?
“ใช่ครับ หลังแรกและหลังเดียวแหละ คงไม่ซื้อแล้ว”
ตัดสินใจนานมั้ย?
“นานครับ นุ๊กจะบอกว่านุ๊กเป็นเด็กบ้านนอก ปกติมาทำงานแล้วกลับ เราไม่ได้มีความคิดจะอยู่กรุงเทพฯ ไม่ได้ตั้งใจซื้อ เราได้เข้ามาทำงาน ไม่ว่าหนัง-ละคร ก็จำเป็นต้องเข้ามาอยู่ ตอนแรกไม่ได้ตั้งใจซื้อบ้าน นุ๊กเช่าอยู่ด้วยตอนนี้ แต่ละเดือนค่าเช่าห้องมันเยอะมาก ก็เสียดาย ก็คิดว่าเปลี่ยนจากค่าเช่าห้องเป็นบ้านไปเลยดีกว่ามั้ย แต่ทีแรกงบตั้งไว้ไม่เยอะ ตอนนั้นตั้งไว้สูงสำหรับนุ๊กคือไม่เกิน 10 ล้าน แต่ตอนนี้เกินไปแล้ว (หัวเราะ)”
เท่าไหร่?
“ไม่กล้าบอกน่ะสิ ประมาณ 20 ล้าน”
เป็นของขวัญชิ้นใหญ่ให้ตัวเอง ที่นุ๊กเองตั้งใจเซอร์ไพรส์คุณแม่?
“ใช่ครับ ตั้งแต่นุ๊กซื้อบ้านทุกขั้นตอน นุ๊กถ่ายไว้หมด ทำยูทูปด้วย วันที่เสร็จทุกอย่างก็จะมาเซอร์ไพรส์แม่ แต่ทีนี้เวลาไม่ตรงกัน แม่ไม่ว่างมา แต่ก็เซอร์ไพรส์ผ่านไปแล้ว”
คิดไว้นานแล้ว?
“นุ๊กมีความฝันตั้งแต่แรกอยู่แล้ว เราอยากมีบ้านหลังใหญ่เป็นของเราเองสักหลัง เพราะพ่อแม่เขามีแล้ว อยากให้เขาเห็นว่าเราก็เป็นเด็กบ้านนอกคนนึง แต่วันนี้มาซื้อบ้านในเมืองกรุง”
วินาทีบอกคุณแม่?
“นุ๊กตื่นเต้นมาก เอาจริงๆ ตอนโทรไปแม่ก็ปกตินะ พอบอกว่าซื้อบ้านเท่านั้นแหละ แม่ทรุดเลย (หัวเราะ) คุณแม่ไม่รู้ราคา ไม่ได้บอก คิดว่าแม่น่าจะรู้ตอนนี้ (หัวเราะ) ที่แกทรุดแกคงเห็นว่าหลังใหญ่จังเลย น่าจะแพงมาก เขาเป็นห่วงเราไม่อยากให้ทำงานเยอะ ทำงานหนัก กลัวไม่มีเวลาพักผ่อน ถ้าซื้อบ้านราคาแพงก็ต้องทำงานตลอดเพื่อที่จะส่งบ้าน”
พอบอกคุณแม่แล้ว เขาได้มีโอกาสมาดูภายในมั้ย?
“ตอนนี้ยังเลย นุ๊กเพิ่งทำคลิปเสร็จ เพิ่งบอกพ่อแม่ไป น่าจะอีกไม่นาน ตอนนี้ยังไม่ได้ย้ายเข้า กำลังตกแต่งภายใน”
พ่อว่าไงบ้าง?
“พ่อไม่ได้ซีเรียสอะไร เขาบอกยินดีด้วย ทำให้เต็มที่ ดีแล้วจะได้รู้ว่าเราทำงานเพื่ออะไร มีจุดมุ่งหมายมากขึ้น”
ได้วางแผนมั้ยอยากให้ท่านมาเห็นบ้านเราเมื่อไหร่?
“น่าจะได้มาก่อน เดือนเกิดจะขึ้นบ้านใหม่”
พ่อแม่ภูมิใจในตัวนุ๊กมาก?
“ครอบครัวเราไม่ใช่ครอบครัวมั่งมีมาตั้งแต่แรก แต่ก็ไม่ใช่ไม่มีเลย ก็อยู่กลางๆ เป็นครอบครัวที่มีหนี้สินเยอะ วันนึงเรามาปิดหนี้ ทำให้เขาสบายได้ ในปัจจุบันนี้ รับรู้ได้ว่าเขาภูมิใจมาก นุ๊กก็ภูมิใจที่สุดเลยแหละ ไม่คิดว่าชีวิตนุ๊กจะมาถึงวันนี้ ไม่คิดว่าวันหนึ่งจะได้มาร่วมทำงานกับเหล่าศิลปินดาราที่เราเคยดูตั้งแต่ยังเล็ก แต่วันนี้เราได้มาร่วมงานกับเขา”
อยากบอกอะไรคุณแม่?
“อยากบอกทั้งครอบครัวว่าทำได้แล้วนะครับ ทำได้มาสักพักแล้วด้วย ในสิ่งที่นุ๊กเคยวาดฝัน อาจย้อนกลับไปเมื่อ 10 ปีก่อนที่ฝันลมๆ แล้งๆ แต่วันนี้นุ๊กทำได้แล้ว ทำให้พ่อแม่สบาย อยากกินอะไรกิน อยากไปไหนไป โดยไม่ซีเรียสว่าเงินต้องชนเดือน ขอบคุณที่เกิดนุ๊กมา ต่อจากนี้ขอให้พ่อกับแม่มีความสุขมากๆ ครับ”
คุณวางแผนว่าจะผ่อนบ้านหลังนี้แค่ 3 ปี?
“ความตั้งใจ ตั้งใจว่าจะรีบส่งให้หมดเร็วที่สุด ให้ภาระหมดเร็วที่สุด ตอนนี้ติดต่องานได้ครับ ไม่ว่าจะคอนเสิร์ต พรีเซ็นเตอร์ทุกอย่าง พร้อมรับครับ เพราะตอนนี้หนี้เยอะเหลือเกิน”
แฟนคลับปลื้มใจไม่แพ้กัน อยากบอกอะไรแฟนคลับ?
“พูดเล่าตรงนี้ 4 วันก็ไม่หมด นุ๊กนิยามเขาเป็นนางฟ้าที่ลงมาช่วยชีวิตนุ๊ก รวมทั้งครอบครัวนุ๊กด้วย ถ้าไม่มีพวกเขา ครอบครัวนุ๊กคงไม่สามารถลืมตาอ้าปากได้อย่างทุกวันนี้ ขอบคุณนะครับที่มาเป็นจิ๊กซอร์ตัวสุดท้ายให้ชีวิตเด็กบ้านนอกคนนึง ให้มาถึงจุดๆ นี้ ทุกวันนี้เขายังเหมือนเดิม เหมือนวันแรกที่เขามาติดตาม คอยผลักดัน ช่วยเหลือ คอยปกป้อง ป้องกันเราทุกอย่าง เขาน่ารักกับนุ๊กมาก นุ๊กไม่รู้ว่าชีวิตนี้จะมีอีกกี่ครั้ง หรืออาจไม่มีเลย หรืออาจแค่ไม่นานที่เขาจะมาติดตามหรือรักเราแบบนี้ แต่อยากขอบคุณความรักที่เขามอบให้เราในชีวิตนี้ ขอบคุณมากๆ”
สมัยก่อนนุ๊กลำบาก กินเดือนชนเดือนบ้าง ไม่ได้สะดวกสบายอย่างทุกวันนี้ คำว่าลำบาก ณ เวลานั้นมันเป็นยังไง?
“นุ๊กเป็นนักร้องซึ่งนักร้องจะเป็นเหมือนกันหมด ถ้าเป็นนักร้องมีชื่อเสียง ดัง มีเอฟซีเยอะ เขาจะได้เงินเยอะ เขาจะสบาย แต่ถ้านักร้องเพิ่งเริ่มใหม่ เพิ่งจะดัง เขาจะไม่มีเงินเดือน ถ้ามีงานก็จะได้เงิน แค่นั้น แต่ก่อนนุ๊กก็เป็นแบบนั้น นุ๊กก็ไปอยู่ค่ายสิงห์มิวสิค นุ๊กเพิ่งหมดสัญญามา เขาก็เอานุ๊กไปแปะกับพี่ๆ นักร้อง นุ๊กก็ได้งานแล้ว 2 พัน บางเดือนมีแค่งานเดียว ต้องใช้แค่นี้ ต้องส่งให้พ่อแม่ด้วย บางวันต้องกินมาม่า เราก็ต้องอดทน นี่คือการเป็นนักร้อง เป็นศิลปิน ต้องสู้มามากๆ”
แม้จะทานข้าวก็ต้องคิดก่อน เพราะอะไร?
“เพราะไม่มีเงินครับ นุ๊กชอบวางแผนอนาคต สมมติมีเงินในบัญชี 1 พันบาท เราพาครอบครัวไปกินข้าว ก็ต้องดูว่าราคาเท่าไหร่ๆ อย่างเรามีพันนึงแต่กินเกินพันห้า จะเอาที่ไหนจ่าย แต่ก่อนเราเป็นแบบนั้นจริงๆ วันนี้ก็ภูมิใจและดีใจ พ่อแม่อยากกินอะไรก็กินเลย ไม่ต้องดูราคา กินเกินราคาก็ได้ เต็มที่”
ก่อนหน้านี้มีค่าย แต่เพิ่งหมดสัญญา ตอนนี้นุ๊กกลายเป็นศิลปินอิสระ ตอนแรกกลัวมากๆ?
“กลัวมากๆ เลยครับ กลัวที่จะต้องเดินออกมาทำงานเอง ตอนอยู่ค่ายเดิม เราเปรียบเสมือนลูกชายคนนึง เจ้าของค่ายเปรียบเสมือนคุณพ่อ เราเดินตามเขา เขาสอนเราทุกอย่าง วันนึงเราออกมาสู้ด้วยตัวเอง เราต้องทำทุกอย่างเลย ซึ่งเราไม่เคยทำ”
ออกมา 6 เดือนเป็นอิสระ มีอะไรเปลี่ยนแปลง?
“ตอนแรกยากมากแต่ปัจจุบันเริ่มดีขึ้น นุ๊กได้สร้างบริษัทเป็นของตัวเอง ได้ทำเพลงเอง ได้รับละคร หนัง พรีเซ็นเตอร์ ก็เปลี่ยนแปลงเยอะมาก แต่นุ๊กโชคดีอย่างนึง นุ๊กได้รู้จักพี่โหน่งด้วย เขาดูแลนุ๊กด้วย ค่อนข้างมีผู้หลักผู้ใหญ่ดีที่อยู่กับเรา เขาคอยชี้ทาง นำทางเรา”
จากเด็กค่ายเขาจัดการให้ทุกอย่าง เรื่องบัญชี การรับงาน ตอนนี้หน้าที่ทั้งหมดก็หัวหมุนเหมือนกัน เพราะต้องทำเองหมดเลย?
“ใช่ครับ ทำเองด้วย ดึงครอบครัว พ่อแม่น้า และพนักงาน มีแอดมินในบริษัทด้วย มันวุ่นวายมากครับ เราไม่เคยมาทำแบบนี้ เราไม่เคยเป็นนายคน เราไม่เคยบริหารบริษัท วุ่นวายมาก ทีแรกหัวหมุนเลย”
แอบท้อมั้ย?
“นุ๊กไม่เคยท้อเลย อยู่ที่ว่าเราจะแก้ปัญหายังไง แอบเหนื่อยแต่ไม่เคยท้อ”
เป็นท่านประธานบริษัทแล้ว เป็นบอส พอมาทำบริษัท ปรับตัวยังไง ตำแหน่งเราเปลี่ยน จากคนอื่นมาดูแลเรา แต่ตอนนี้เราต้องดูแลชีวิตลูกน้องเรา?
“เขินจัง เป็นบอส (หัวเราะ) นุ๊กก็ทำตัวปกตินะ แต่ทุกอย่างต้องคิดไตร่ตรองเยอะ นุ๊กไม่ใช่นุ๊กคนก่อนเป็นนักร้อง ทำงานเสร็จแล้วนอน วันว่างก็ไปเที่ยว ตอนนี้ไม่ใช่แล้ว วันว่างก็อาจต้องเซ็นเอกสารบ้าง (หัวเราะ)”
จบค่ายเก่าดี?
“ดีครับ ตอนนี้ถ้ามีเวลาว่างจะทำเพลง หรือค่ายสิงห์มีโปรเจกต์อยากให้ไปร้องกับน้องๆ ในค่าย นุ๊กก็สามารถไปได้ ก็อยู่ด้วยกันเหมือนพี่เหมือนน้อง”
ตัดสินใจนานมั้ย ในการเดินออกมาจากคอมฟอร์ดโซนของเรา?
“จริงๆ หมดสัญญา นุ๊กอยู่กับค่าย 6 ปี หมดสัญญาช่วงธ.ค. พอดี จริงๆ คุยกับพี่ก่อนหน้านั้นแล้วแหละ ว่าพี่ ผมควรทำยังไง ผมควรต่อสัญญามั้ย พี่เขาก็ฟรีสไตล์ บอกว่าแล้วแต่เลย ต่อก็ต่อ ไม่ต่อก็ไม่ต่อ ไม่ได้บังคับ”
มีดราม่าตีกลับมาว่านุ๊กยังไม่ได้ดังเลย แล้วออกมาจากบ้านเดิมทำไม?
“จริงๆ คำนี้ ทั้งนุ๊กทั้งปายได้รับมาตั้งแต่ก้าวเป็นนุ๊กปาย เพราะเขาไม่ยอมรับ แต่จริงๆ แล้วนุ๊กก็เข้าใจเขานะ เข้าใจทั้งเขาและเราด้วย ตอนนี้นุ๊กปายถ้าให้เทียบจริงๆ ยังใช้นิยามคำว่าศิลปินไม่ได้ นุ๊กปายคือเน็ตไอดอล ที่มีด้อม มีเอฟซีรัก แล้วไม่มีผลงานที่เป็นที่ประจักษ์ ไม่มีเพลงดัง ไม่มีหนังดัง คนนอกเขาจะคิดแบบนี้ก็ไม่แปลก คนทั่วไปก็ร้อยพ่อพันแม่ เขามีความคิดแตกต่างกันอยู่แล้ว ไปห้ามความคิดเขาไม่ได้”
อยากบอกอะไรคนที่เคยดูถูกเรา หรือต้านกระแสลบๆ กับเรา?
“สำหรับคนเคยดูถูก เอาจริงๆ สำหรับคนที่เขาไม่ชอบเรา หรือคนชอบว่าเรา มาเมนต์ มาเกรียนเรา นุ๊กมองว่าเขาไม่ชอบเราทุกวันนี้ ในอนาคตเราทำดี เป็นคนดี มีเพลงดัง มีหนังดัง เขาก็ไม่ชอบเราเหมือนเดิม สุดท้ายทำให้คนพอใจทั้งหมดบนโลกนี้เป็นไปไม่ได้ เราหันมาโฟกัสคนที่เขารักเรา สนใจเราดีกว่ามั้ยคนที่เขาชื่นชอบเรา ดีกว่าเราไปทำให้คนที่ไม่ชอบเราหันกลับมารักเรา เราหันมาหาคนที่เขารักเราดีกว่า รักที่เราเป็นเรา โดยเราไม่ต้องเปลี่ยนแปลงตัวเอง”
แอบเก็บไปคิดน้อยใจมั้ย?
“คิดอยู่แล้วครับ มนุษย์เราเป็นเหมือนกันหมด ตอนนี้นุ๊กปายเดินทางมาได้ 4 ปี เกือบ 5 ปี ต้องย้อนกลับไป 3 ปีแรกที่เราเป็นเด็กบ้านนอกที่ดังขึ้นมาเลย มีเอฟซีรัก มีคนมาซัปพอร์ต เราตั้งตัวไม่ทัน ช่วงนั้นเราเครียด เราไม่สามารถวิเคราะห์ เก็บอารมณ์ตัวเองได้ เราแคร์ทุกคน อย่างเราโพสต์รูป 1,999 คน ชื่นชมเรา แต่มีคนด่าเราคนเดียว เราก็ไปอ่านไอ้คนที่ด่าเราแล้วเก็บเอามาคิด จิตตก แต่ตอนนี้ดีขึ้น เรามีภูมิต้านทาน ก็แค่ปล่อยผ่านไป เขาไม่ชอบเรา เราก็ไม่เก็บมาคิดในใจ อ่านแค่สิ่งที่เป็นพลังใจและพลังบวกให้เรา”
เมื่อวานนี้ เราไปร้องเพลงในงานประกาศรางวัล?
“ใช่ครับ เขินๆ ร้องเพลงกับปาย ไม่ได้เดินพรมออกงานร้องเพลงนานมาก กับปายไม่ได้ออกงานอีเวนต์แบบนี้สักพักนึงเลย เขินๆ นิดนึง ทำตัวไม่ถูก (หัวเราะ) แฟนๆ ก็มีคอมเมนต์ 99 เปอร์เซ็นต์ เขาคิดถึงโมเมนต์เดิมๆ ที่เราเคยเป็น”
ไม่ได้อยู่ค่ายเดิม ทุกอย่างเหมือนเดิมมั้ย?
“เหมือนเดิม ไม่เปลี่ยนนะครับ นุ๊กก็มาตั้งบริษัทนุ๊ก ปายก็ตั้งบริษัทปาย บางครั้งเอฟซีไม่เห็นมุมที่เราคุยกัน ก็คิดว่าเราไม่คุยกันเลย แต่จริงๆ แล้วเราคุยกันตลอดในแชต เวลาปายดาวน์ เราก็เป็นเซฟโซนให้ปาย เวลาเราดาวน์ ปายก็เป็นเซฟโซนให้เรา เป็นเพื่อนที่ดีให้กันเสมอ แค่เราไม่ได้โพสต์ให้ทุกคนรู้ แฟนคลับเห็นแค่การทำงานด้านเดียว บางทีชวนไปกินข้าวเหมือนเดิม ปกติเลย”
หมดสัญญากับค่าย ปรึกษากันมั้ย?
“ปรึกษากันตลอดครับ ต่างคนต่างหมดสัญญา ก็คุยกัน พี่เขาว่าทำเพลงไปเรื่อยๆ ไม่ได้ซีเรียส มีผลงานเพลง มีโปรเจกต์ฟีเจอร์ริ่งก็มาทำด้วยกัน จริงๆ การเปิดบริษัท ปายเขาเริ่มก่อน ปายเขาชอบด้านผู้บริหารเป็นเบื้องหลัง”
จากที่เจอกันทุกวัน ถึงเวลาแยกย้ายไปเติบโต ตอนนี้ความสัมพันธ์เป็นยังไง?
“ยังเหมือนเดิมครับ เป็นเพื่อนที่สนิทกันมากเหมือนเดิม มีอะไรก็คุยกัน สบายใจหรือไม่สบายใจก็คุยกัน”
คุยทุกวันมั้ย?
“ก็ไม่เชิงทุกวันหรอก (หัวเราะ)”
เกือบทุกวัน?
“(หัวเราะ)”
พอต่างคนต่างแยกย้าย ปายขี้เหงามาก?
“เขาเป็นสไตล์นั้นครับ ปายเขาเป็นคนอยู่ไม่ติดบ้าน เราจะรู้ว่าเพื่อนเราเป็นยังไง ทุกวันนี้ขี้เหงา เวลาไม่มีงานก็จะโทรมาชวน เฮ้ย ไปแข่งรถมั้ย ไปนั่งชิลมั้ย ไปดื่มมั้ย ปายเขาสไตล์ลุย ซึ่งเราเป็นอีกอย่าง เราสไตล์อยู่บ้าน สบายๆ เป็นผู้ชายรักสงบ”
นุ๊กมีคู่จิ้นคนใหม่แล้ว?
“มีคู่จิ้นใหม่ที่แฟนคลับเขาพูดถึง ตอนนี้นุ๊กมาอยู่กับคุณเบิ้ลปทุมราช เวลาเขาเล่นบนเวที เขาชอบมาหอม”
ชอบหรือเปล่า?
“มันหยอกกันเฉยๆ เป็นผู้ชาย (หัวเราะ) ไม่มีอะไร เขาชวนผมไปเล่น แล้วบอกว่าให้รับดอกไม้แล้วเขินนะ เขาเป็นสไตล์นี้ เขาชอบแกล้งผม คุณเบิ้ลเขาไม่ธรรมดา เขาจะแกล้งไม่เกรงใจคนอื่นเลย ถ้าแกล้งเขาแกล้งเลย แต่เราเป็นน้องใหม่ ก็ยอมๆ เขาสักหน่อย อย่างไปรายการนึง เขาอยู่ในรายการนั้นพอดี เรายืนซ้อมร้องเพลงในห้อง เขาก็พักผ่อน นอน อยู่ดีๆ ก็บอกว่าเฮ้ย เสียงใคร ใครมาซ้อมวะ รำคาญฉิบหายเลย เราก็แกล้งแต่ไม่หนักเท่าเขา แต่ไม่สามารถพูดได้”
สถานะหัวใจเป็นอย่างไร?
“ตอนนี้เวลาไปอยู่กับงานซะส่วนใหญ่ ไม่มีเวลาโฟกัสตรงนี้”
โสด?
“แต่ก็มีคนทักมา สาวๆ ก็ทักมาอยู่ ไม่ใช่ว่าไม่มีเลย”
สเปกชอบแบบไหน?
“แต่ก่อนมีนะ แต่เดี๋ยวนี้รู้สึกว่ายิ่งโตสเปกยิ่งไม่มีแล้ว มีคนเข้ามาทักทายบ้าง แต่ทำงานอย่างเดียว หนี้เยอะขนาดนี้”
ทำงานกับคนที่เรารักชอบมั้ย?
“(หัวเราะ) ชงใหญ่”
ติดตามชมรายการคุยแซ่บShow ทุกวันจันทร์-วันศุกร์ เวลา13.15-14.15 น. ทางช่อง one31 Facebook Page : คุยแซ่บShow รับชมย้อนหลังได้ที่ Youtube Channel : Orange Mama
คลิปสัมภาษณ์ นุ๊ก ธนดล https://youtu.be/4Fi82g7G6Yc?si=9es4NoDWiCdhFZ4P
Social Plugin