รายการโหนกระแสวันที่ 9 มี.ค. 65 ดำเนินรายการโดย “หนุ่ม กรรชัย กำเนิดพลอย” ผลิตในนามบริษัท ดีคืนดีวัน จำกัด ออกอากาศทุกวันจันทร์-ศุกร์ เวลา 12.35 น. ทางช่อง 3 กดเลข 33 สัมภาษณ์ “ทนายกฤษณะ ศรีบุญพิมพ์สวย” ซึ่งขอเคลียร์ทุกประเด็น มาพร้อม “ทนายเดชา กิตติวิทยานันท์” ประธานเครือข่ายทนายคลายทุกข์
ขอบคุณทนายกฤษณะที่รักษาคำพูดที่บอกว่าจะมาเมื่อวานนี้ ตอนนี้งานคุณยุ่งเยอะมั้ย?
กฤษณะ : ยุ่งมากครับ
จริงๆ คุณมีนัดไปออกรายการคุยแซ่บโชว์ ช่องวัน คุณมานั่งตรงนี้ได้ยังไง คุณไม่ไปเหรอ?
กฤษณะ : จริงๆ เมื่อวานมีการจัดเซ็ตหลายๆ อย่าง ประสานกับน้องทีมงาน แต่บังเอิญพอผมได้ทราบเรื่องที่เปิดเผยขึ้นมา เรื่องราวของผมก่อนหน้านี้ มันเหมือนสับสน ทำอะไรไม่ถูก มันเหมือนช็อกไปนิดนึง แต่จริงๆ ผมเตรียมพร้อมที่จะรับกับสถานการณ์ตรงนั้นมาก่อนหน้านี้แล้ว เพราะมาทำคดีใหญ่ คิดอยู่แล้วว่าต้องมี แต่สาเหตุที่อยากออกรายการ ก่อนมีข่าวบอกว่าผมเบี้ยวหนี้ ผมหักซิมตัวที่ผมเคยใช้ ที่ขอยืมเงิน ผมหักทิ้งเลย ไม่ได้จดเบอร์ของเจ้าหนี้เอาไว้
ทำไมไม่ไปรายการคุยแซ่บโชว์?
กฤษณะ : จริงๆ แล้วคุณกรรชัยได้นัดหมายกับผมก่อนแล้วเมื่อคืนนี้ คุยแซ่บโชว์คุยทางไลน์เมื่อวานนี้ค่ำๆ เหมือนกัน ผมทิ้งไลน์ว่าเดี๋ยวขอให้คำตอบตอนเวลา 9 นาฬิกา ผมเองก็ไม่ได้นึกถึง ณ ตอนนั้น คิดว่าคงมีรายการคุณปอเปี๊ยะกับรายการนี้เท่านั้น
รายการเขาเสียหายนะ คุณต้องระวังเรื่องนี้ วงการเขาถือกันมาก?
กฤษณะ : ผมก็กราบขอโทษด้วย ผมเองไม่มีเจตนาจริงๆ แต่มันคิดอะไรไม่ออก มันเบลอจริงๆ
คุณจำเป็นต้องติดต่อไปหาเขาและขอโทษ ไม่งั้นจะเป็นประเด็น เมื่อคืนไปออกรายการคุณบุ๋ม ปนัดดา ชื่อดราม่าวันนี้ เป็นไงบ้าง ร้องไห้มั้ย?
กฤษณะ : ไม่ได้ร้องครับ
แต่เมื่อเช้าร้อง?
กฤษณะ : ผมไม่คิดว่าทางคุณแม่จะยังต้องการผมอยู่
เรื่องคุณแม่ที่มีการติดต่อเข้าไปในรายการคุณปอเปี๊ยะ รายการคุยทะลุดราม่า แม่บอกว่าไม่ตกใจเรื่องนี้ เป็นเรื่องปกติที่มีคนเป็นหนี้ พ่อแตงโมยังมีหนี้ และไม่อยากให้ไปออกรายการโหนกระแสด้วย ทำไม เขาเกลียดผมเหรอ หรือเจ็บเพราะรายการนี้?
กฤษณะ : คุณแม่ไม่เคยพูดให้คุณกรรชัยเสียหายเลยนะครับ มีแต่ชมคุณกรรชัย
ผมก็ชมคุณแม่?
กฤษณะ : คุณแม่อาจมีเหตุผล ผมก็ไม่ได้สอบถามคุณแม่ แต่การที่ผมตัดสินใจมาในรายการวันนี้ ผมดูแล้วก็ต้องกราบขอโทษคุณแม่ด้วย ที่ไม่ฟังคำสั่ง ผมมองดูแล้วว่าการออกในครั้งนี้ ก็มีผลดีของผมด้วย ในการที่จะได้มาออกรายการแก้ปัญหาหลายๆ อย่าง และให้ข้อคิดในเรื่องกฎหมาย
คุณมาเป็นทนายความคดีแตงโมได้ยังไง?
กฤษณะ : ที่มีข่าวว่าผมเป็นคนของตร. ส่งมา ขออธิบายเลยนะครับ คดีนี้ตั้งแต่เกิดเหตุ ผมดูข่าว และเห็นหน้าตาคุณแม่แตงโม หน้าตาคล้ายๆ คุณแม่ผม คุณแม่ผมก็มีลูกสาว 2 คน เป็นพี่สาวผม และเสียชีวิตไปตั้งแต่เด็ก พี่สาวคนแรกผมยังแบเบาะอยู่ พี่สาวอีกคนตอนนั้นผมโตแล้ว คุณแม่ก็ไม่ได้รับความยุติธรรมเท่าไหร่ มีการเยียวยาเล็กๆ น้อยๆ ไม่รู้กฎหมายก็จบกันไป เนื่องจากผมเป็นทนายความที่ไม่รู้นิสัยเป็นอะไร ชอบเข้ามาทำคดีแบบนี้
มีข่าวลือว่าตร.เป็นคนแนะนำคุณ?
กฤษณะ : ผมเป็นคนเสนอตัวเข้าไป ผมโทรไปที่สน. ขอเบอร์โทรคุณแม่แตงโม หรือใครก็ได้ที่เป็นเครือญาติกัน สิบเวรบอกว่าไม่มีเบอร์ เดี๋ยวให้เบอร์สารวัตรที่ดูแลคดีนี้ ผมเลยโทรหาสารวัตร เขาบอกว่าคุณแม่ไม่มีทนาย เดี๋ยวให้เบอร์คุณแม่กับคุณดายศไป คุณไปคุยกันเอง
เอาง่ายๆ ตร.ไม่ได้แนะนำ แต่คุณเสนอตัวเข้าไปหาแม่เอง จบทนายมานานหรือยัง?
กฤษณะ : ผมได้ตั๋วทนายรุ่น 52 หมายเลข 2461/2563
พอจะทราบใช่มั้ย การเป็นทนายความ เขาไม่เสนอตัวให้ลูกความ การเสนอตัวไปแบบนี้ ผิดมรรยาททนายความมั้ย?
เดชา : มันก็ดูไม่ค่อยเหมาะสม แต่เขาเป็นไปแล้ว ก็อาจดูไม่ค่อยดี โดยทั่วไปจะไม่ค่อยมีใครเสนอตัว
เสนอตัวไปแล้วได้มั้ย?
เดชา : ถามส่วนตัวไม่ค่อยเหมาะสม ส่วนผิดมรรยาทหรือไม่ก็แล้วแต่คณะกรรมการมรรยาท ก็เป็นเรื่องไม่ค่อยเหมาะสม
มุมแตงโม คุณจะทำยังไงบ้าง?
กฤษณะ : เมื่อวานนี้ผมได้ยื่นหนังสือต่อประธานกรรมาธิการรัฐสภา เพื่อขอความเป็นธรรม เพราะเห็นคดีมีปัญหาหลายๆ อย่าง ด้วยตัวเองเป็นทนาย อาจเห็นข้อสงสัยหลายๆ อย่างที่อยู่ในหัวตัวเอง เลยปรึกษาเพื่อนๆ ในรุ่นเดียวกัน มีคุณหมอท่านนึงเป็นทนายเหมือนกัน ก็บอกว่าทำไมไม่ลองติดต่อหมอพรทิพย์ดู ผมก็อ๋อทันที แต่ลืมไปว่าคุณหมอพรทิพย์ท่านปลดเกษียณไปแล้ว ก็มีนักข่าวสำนักข่าวนึงส่งเบอร์โทรคุณหมอพรทิพย์มาให้ บอกว่าให้โทรหาคุณหมอพรทิพย์ด่วนเลย คุณหมอก็ให้เข้าไปหาตอนบ่ายสองโมงครึ่งเลย ช่วงนั้นก็ว่าจะไปดูทนายษิทรา ที่ออกข่าวก่อนหน้านั้นว่าจะพาใครไม่รู้ไปที่สน. ที่ว่าจะพาบุคคลคนนึง ผมก็เข้าใจว่าทนายษิทราจะพาบุคคลภายนอกเข้ามา ผมก็ไปนั่งเล่นรอดูว่าทนายจะพาใครมา ตอนแรกเห็นไม่มีใครมา ก็ขับรถออกมา สักพักมีสำนักข่าวส่งภาพให้ผมเป็นภาพพี่ดายศกับทางทนายตั้มนั่งคุยกัน ผมก็ตกใจ มีอย่างนี้ด้วย ผมก็โทรหาคุณดายศ คุณดายศบอกว่าขอถอยออกมา และให้พี่กฤษณะกับคุณแม่เดินหน้าต่อไป
ผมถามใหม่ จะจัดการยังไงกับเรื่องแตงโม คุณแม่ต้องการอะไรที่ให้ทนายช่วยเรื่องนี้?
กฤษณะ : ที่คุยกับคุณแม่ คุณแม่บอกแค่ว่ามอบความไว้วางใจให้กับผม ทนายกฤษณะจะทำอะไรก็ได้ที่ให้มันเกิดประโยชน์กับน้องแตงโม ให้จัดการได้เลย คุณแม่ไว้ใจ
เริ่มจากการร้อง แล้วจะทำยังไง?
กฤษณะ : จะไปดูหลักฐานต่างๆ ที่ผมเองก็ไม่เคยสัมผัสเลย เมื่อวานก็ไปดูเรือ และถ่ายภาพถ่ายอะไรมา สองผมจะปรึกษาทางคุณหมอพรทิพย์ และคุณไทด์ ที่คุณดายศให้เบอร์มา คุณหมอพรทิพย์ก็ให้ข้อมูลหลายๆ อย่าง ให้ข้อมูลไปเบื้องต้น ตั้งแต่เข้าไปตอนแรก คุณหมอส่งไลน์มาแนะนำว่าให้ทำยังไงกันบ้างด้วย
หลังตร.มีการแถลง 2-3 วันที่ผ่านมา สรุปในมุมอุบัติเหตุ ทนายค้านเรื่องนี้มั้ย?
กฤษณะ : ในแนวของผมเอง ผมยังค้านอยู่ ตอนนี้ก็เลยไปทำคำร้องถึงประธานกรรมาธิการที่จะเข้ามาช่วย และหาหลักฐาน และขอเอกสารต่างๆ มาเปรียบเทียบดูใหม่อีกครั้งนึง เพราะคดีนี้ผมยังมีข้อสงสัยจริงๆ ในหัวผมอยากค้นหาหลักฐานที่มันน่าจะมีประโยชน์
คุณสงสัยเรื่องอะไร?
กฤษณะ : ผมสงสัยเรื่องศีรษะ ผมคุยกับคุณไทด์ ขออนุญาตเอ่ยชื่อ คุณไทด์บอกว่าตอนไปดูใบหน้าของน้อง ด้านซ้ายช้ำ ด้านขวามีทะลักออกมา มีฟันหัก มีโทรศัพท์สายนึงเข้ามาบอกว่าขอให้ข้อมูลหลักฐาน อยากให้ไปดูรอยที่หัวว่ามีรอยก้นขวดไวน์กระแทกเข้ามามั้ย ให้ไปดูผลก่อน เผื่อผลอาจถูกทำลายไปก่อน แล้วก็วางสายไปเลย เขาไม่บอกชื่อ ผมก็ยังไม่ปักใจเชื่อเท่าไหร่เพราะผมไม่เห็นศพ และไม่เห็นภาพถ่ายอะไรเลย
ตอนนี้ที่กำลังมอง มองว่าเหตุฆาตกรรม หรืออุบัติเหตุ หรืออุบัติเหตุที่มีเงื่อนงำ?
กฤษณะ : ผมว่าเป็นอุบัติเหตุที่มีเงื่อนงำครับ
สิ่งที่ทำต่อไปในการคืนความเป็นธรรมให้แตงโม จะทำอะไร?
กฤษณะ : ถ้าเกิดว่ากรรมาธิการเห็นว่าจะเอาเข้าประชุมภายในอาทิตย์หน้า และจะแต่งตั้งคณะกรรมการเข้ามาตรวจสอบร่วมกับพนักงานสอบสวน เพื่อขอเอกสารทั้งหมด ถ้าคณะกรรมการสรุปผลยังไง เขาจะแจ้งให้ผมได้รับทราบ ถ้ามีการส่งสำนวนไปยังอัยการ อัยการสั่งฟ้อง ผมก็จะแต่งเป็นโจทก์ร่วมเข้าไป และเรียกค่าสินไหมทดแทนเข้าไปด้วยในส่วนนั้น
พี่เดชามองยังไง?
เดชา : เขายังเป็นทนายใหม่ คดีนี้เป็นคดีที่มีความสลับซับซ้อน มีแต่คนโกหกตอแหลเต็มไปหมดเลย ฉะนั้นประสบการณ์เขายังน้อย แค่ปีสองปี ในฐานะเป็นทนายรุ่นพี่ ถ้าทำคดีมีแต่คนโกหกหลอกลวงเต็มไปหมด น่าจะหาทนายรุ่นพี่มาเป็นที่ปรึกษาด้วย
คิดว่าเขาทำไม่ได้เหรอ?
เดชา : ทำได้ แต่จะไปไหวหรือเปล่า เขายังทนายใหม่อยู่ ทำได้ แต่ถ้าจะให้ดี หารุ่นพี่ๆ มาช่วย แนะนำในฐานะอาชีพเดียวกัน
แต่แม่เขามั่นใจ?
เดชา : มั่นใจแต่ยังใหม่ ใบอนุญาต 63 เอง ควรหาทนายรุ่นพี่มาเสริมทัพ นี่คือคำแนะนำ สองผมฟังแล้วแปลกๆ อย่างนึง คุณแม่และตัวทนายมั่นใจตร. แต่ไปร้องหมอพรทิพย์ เรื่องผ่าศพ เรื่องวิเคราะห์ใหม่ ไปร้องกรรมาธิการ การไปร้องกรรมาธิการในวุฒิสภา สภาผู้แทนราษฎร กรรมาธิการไม่ได้มีอำนาจอะไร มีอำนาจคือเรียกคนเข้ามาชี้แจง ตร.เอย ใครเกี่ยวข้องเอยก็เข้ามาชี้แจง ก็สงสัยว่าในเมื่อคุณแม่มีความสัมพันธ์ที่ดีกับตร. ทำไมไม่ถามตร. ตรงๆ ว่าคดีนี้มีช่องว่างยังไง ยังดีกว่าไปร้องที่อื่น นี่ด้วยความเคารพนะ อย่างคดีนี้ในฐานะผมติดตามข่าวสารมาตลอด คดีมีช่องว่าง โอกาสศาลยกฟ้องสูงมาก เพราะทุกคนใน 5 คนยืนยันเป็นอุบัติเหตุหมด แล้วนายเบิร์ต ยอมรับแค่เป็นคนขับเรือนะ เขาไม่ได้ยอมรับว่าขับเรือกระชาก มีแต่ตร.แถลงอย่างเดียวว่ามีคนบนนั้นมีความรู้สึกว่า ฉะนั้นคดีหลวมมาก ในฐานะรุ่นพี่อยากฝากน้อง น่าจะไปถามตร.ว่าตรงนี้จะอุดช่องว่างยังไง เขาไม่ได้ยอมรับว่าขับเรือ
พี่ไม่ถามเขาเอง?
เดชา : เขาไม่บอกน่ะสิ ต้องไปถามคุณแม่ว่าเขาอนุญาตหรือเปล่า
ถามได้มั้ย?
กฤษณะ : ประเด็นสำคัญคือผมอยากเข้าไปหาอาจารย์มานานแล้ว แต่ผมยุ่งกับเรื่องเอกสารต่างๆ เลยยังไม่มีเวลา ตอนแรกตั้งใจจะเข้าไปวันเสาร์ หาเบอร์อาจารย์และประสานขอเข้าพบ แต่ด้วยทุกอย่างมันสับสนอยู่
เดชา : แก้ปัญหาตัวเองอยู่ แล้วแก้ได้หรือยัง
มีข่าวลือว่าตัวทนายไปบอกฝั่งคุณต่อย ดายศลูกของแม่ว่าไม่ให้เดินคู่กับทนายตั้ม จริงมั้ย?
กฤษณะ : ไม่เคยเลยครับ มีแต่บอกว่ายินดี
แล้วทำไมดายศถอนตัวจากทนายตั้ม?
กฤษณะ : เห็นคุณแม่คุยทางไลน์กับคุณดายศ ที่คุณแม่บอกผม แต่ที่เหลือผมไม่ทราบเลย คุณแม่บอกว่าสั่งสอนไปยกนึง แต่ไม่ได้บอกว่าสั่งสอนยังไง ส่วนการถอนผมมาทราบตอน 5 ทุ่มกว่า เห็นในข่าว
คุณบอกว่าคุณเป็นกาวใจให้ดายศกับแม่?
กฤษณะ : ผมคุยกับคุณดายศ พอรู้ว่ามีปัญหา ผมก็โทรหาคุณดายศ ก็อธิบายให้ฟังว่าผมพยายามอธิบายให้คุณแม่ฟัง ส่วนคุณดายศบอกว่าต้องตามใจคุณแม่ ผมได้พูดแค่นี้ ไม่ได้พูดอะไรไปมากกว่านี้
ตอนนี้มีประเด็นคุณหลากหลายมากมาย เคลียร์น้องมุกไปแล้ว ยังมีคุณโต๋ คุณโอ๋ แม่สาว คุณรู้จักมั้ย?
กฤษณะ : รู้จักครับ เป็นผู้เสียหายของผมหมด
เดชา : ผู้เสียหายที่โดนคดีฉ้อโกงเป็นนักศึกษาทั้งนั้น จริงมั้ย
กฤษณะ : ใช่ครับ ตอนนี้ได้ไปเคลียร์แล้ว
เดชา : ตอนนั้นคุณเป็นครู
กฤษณะ : เป็นติวเตอร์ครับ จริงๆ ไม่ได้หลอก สอนตามปกติ แต่ช่วงนั้นมีเหตุการณ์บีบบังคับผมจริงๆ
ใช้คำว่าหยิบยืม อย่าบอกว่าหลอก แล้วไม่มีเงินไปคืนเขา?
กฤษณะ : ครับ ด้วยภาวะกดดันจริงๆ ผมไม่สามารถแก้ไขปัญหาได้ แต่ในส่วนคดีตรงนี้ ตร.ได้ออกหมายเรียกผมไป เขาออกหมายจับ เขามาเชิญตัวผมไป ผมก็ประกันตัวออกมา พอประกันตัวออกมา บังเอิญได้พบผู้เสียหายด้วย ก็เคลียร์กับผู้เสียหาย ถอนเรียบร้อยแล้วครับ
ทนายกฤษณะ ตั้งแต่มาทำคดี ก็มีประเด็นต่อเนื่อง มีผู้เสียหายหลายคน ที่มาคุยกัน ไม่ได้เอามาฆ่า เราคุยกันตามข้อเท็จจริง ผมก็เข้าใจคุณในมุมนึง มีผู้เสียหายส่งไปหาหลายที่มาก คุณเองเคยถูกออกหมายจับ?
กฤษณะ : ยอมรับครับ เป็นคดีฉ้อโกงในตอนนั้น เป็นจำนวนเงิน 6 หมื่นบาท
ไม่น่าเป็นการหยิบยืมแล้วเพราะมีคดีออกมา?
กฤษณะ : ทางผู้เสียหายไปให้การ มันเข้าข่ายในส่วนฉ้อโกง ตร.ก็ติดต่อผมไม่ได้ช่วงนั้น ก็ออกหมายจับ ผมเข้ามาทำงานที่กรุงเทพฯ ตร.ก็เชิญตัวไป และส่งตัวกลับไปที่อุดรฯ หลังจากนั้นก็ยื่นเรื่องประกันตัวออกมา และมีการรายงานตัว ผมก็รวบรวมเงินไปชำระให้ผู้เสียหาย เขาจึงถอนฟ้อง
วันนี้มีผู้เสียหายไม่ต่ำกว่า 4-5 รายที่รอเข้าสายคอลมาเยอะมาก แต่ผมไม่ให้คอล ผมให้ไปคุยกันนอกรอบ เดี๋ยวให้ทนายเดชาเป็นคนคุย เพราะผู้เสียหายบางท่านยังไม่ได้รับเงินคืน อาจต้องทำสัญญา โดยพี่เดชาเป็นพยานให้ คุณต้องทำจดหมายในการส่งคืนเขานะ?
กฤษณะ : ยินดีครับ
เดชา : ถ้าตบตีกันในรายการยุ่งเลย
ผมทำให้คุณได้เท่านี้ วันนี้ยังมีคดีความติดตัวคุณมั้ย?
กฤษณะ : ไม่มีแล้วครับ ถ้ามีผมคงไม่สามารถมานั่งตรงนี้ได้ แต่เงินยังค้างจริง
เดี๋ยวคุณจะเคลียร์ให้รายคน ต้องทำสัญญาข้อตกลงในการคืนเงิน?
กฤษณะ : ยินดีครับ
เดชา : ผมเป็นห่วงเขานะ ตอนนี้เริ่มมีศัตรูแล้ว ตอนไปขอใบอนุญาตเขาไปตรวจสอบประวัติมั้ยว่ามีคดีฉ้อโกง เพราะถ้ามีคดีฉ้อโกงมาก่อนอยู่ ผมว่าสภาทนายเขาไม่น่าให้เป็นทนายนะ มาเป็นทีหลังหรือยังไง
กฤษณะ : ตอนนั้นมีการถอนไปแล้วครับ
เดชา : กลัวเดี๋ยวจะหลายเรื่องไง
แม่จ้างทนายมา มีการพูดคุยเรื่องตัวเลขเรียกค่าเสียหายมั้ย?
กฤษณะ : ผมยังไม่ได้คุยตัวเลขกับคุณแม่เลย มีแต่ถามคุณแม่ว่าจะคิดค่าเสียหายประมาณเท่าไหร่ น้องแตงโมมีรายได้จากอะไรบ้าง ให้คุณแม่ลองคำนวณดู แล้วผมจะคำนวณด้วย
มีการพูดถึงตัวเลข 30 ล้านมั้ย?
กฤษณะ : คุณแม่คุยว่าประมาณ 30 ล้าน
คิดว่าไปถึงมั้ย?
กฤษณะ : ผมขอดูหลักฐานคุณแม่ก่อนว่าคุณแม่มีหลักฐานอะไรบ้าง ผมเลยยังบอกคุณแม่ว่าตัวเลขนี้เป็นการสมมติหรือเปล่า หรือคุณแม่คิดว่าประมาณนี้ คุณแม่บอกว่าตอนนี้แค่สมมติก่อน ถ้างั้นให้คุณแม่หาเอกสารให้ผมก่อนจะได้ลองคำนวณใหม่ว่าจะถึงขนาดนี้มั้ย เพราะในการยื่นต่อศาลก็ต้องมีหลักฐาน
คิดว่าได้มั้ย?
กฤษณะ : ได้ครับ
เดชา : ผมว่าหลงประเด็นแล้ว จริงๆ คุณแม่ควรไปให้ความสำคัญว่าใครเป็นคนทำให้น้องแตงโมตายก่อน ยังไม่รู้เลยใครผิด แล้วใครเขาจะจ่ายล่ะ ต้องไปดูตร.ตรงนี้ก่อน ไปดูสิว่าพยานหลักฐานอ่อนมั้ย ตรงนี้มากกว่า เพราะยังไม่รู้ว่าใครผิด แล้วจะไปเรียกกับแมวที่ไหนล่ะ ส่วนเรียกค่าเสียหายมันเป็นภายหลัง ยังไม่มีใครยอมรับผิดเลย ที่เป็นข่าว ปอกับเบิร์ตลูกชายคุณแม่สองคน เบิร์ตยอมรับแค่เขาขับเรือเฉยๆ อย่างเดียวนะ ไม่ได้ยอมรับเรื่องกระชาก แค่ขับเรือยังไม่มีความผิดนะ มีความผิดแค่ไม่มีใบอนุญาต ใบประกาศ กฎหมายเกี่ยวกับเรื่องกรมเจ้าท่า ก็อยากฝากน้องให้แม่เน้นประเด็นนี้ เน้นว่าจะมีคนผิดมั้ย จะสั่งไม่ฟ้องหมดหรือเปล่า หลังจากนั้นถึงมาประเด็นเรื่องค่าเสียหาย ค่าเสียหายก็ดูเรื่องค่าขาดไร้อุปการะรายเดือนถ้าน้องแตงโมยังมีชิวิตอยู่ กี่ปีกี่เดือน อันนี้ก็ฝากน้อง
ถ้าต้องขึ้นศาลแล้วไปเจอทนายความอย่างทนายเดชา คุณเอาอยู่เหรอ?
กฤษณะ : ผมมีที่ปรึกษาครับ
ก็แค่ที่ปรึกษาไง?
กฤษณะ : ถ้าถามว่าระดับทนายเดชา พอขึ้นเวทีก็ต้องสู้กัน ทำหน้าที่แต่ละฝ่าย
ถ้าเจอระดับแบบนี้ที่ทางโน้นเอามาสู้ คุณจะเอาเขาอยู่มั้ย?
กฤษณะ : ผมมั่นใจว่าผมสู้ได้ครับ เอาอยู่ครับ
พี่เดชามองยังไง?
เดชา : เอาอยู่ เพราะเขามั่นใจ ไม่เป็นไร แต่ยังไงก็ต้องรีบแก้ปัญหาตัวเราด้วย จะได้จบไป
คุณไปร้องไห้ในรายการคุณปอเปี๊ยะ คุณร้องไห้ทำไม?
กฤษณะ : พอดีเมื่อวานนี้ มีผลกระทบถึงครอบครัวผมด้วย ทางแฟนกับลูกผมเขาไม่เคยรู้เรื่องนี้มาก่อน ผมปิดบังมาตลอด ก็เหมือนผมทำให้เขาคิดมาก ผมเองก็อัดอั้น เหมือนทุกสิ่งทุกอย่างก็ต้องมาเปิดกันแล้ว ผมก็ไม่รู้จะเรียบเรียงและเริ่มต้นคำพูดยังไงเพื่อประสานกับผู้เสียหาย ในเมื่อมันเกิดแล้ว ก็มีโอกาสได้ออกอากาศในวันนี้ ในหลายๆ ช่อง อยากทำคดีนี้ อยากชำระหนี้ให้มันเสร็จ
เพื่อเอาเงินไปใช้เขา?
กฤษณะ : ผมไม่ได้เสนอตัวเงินคุณแม่เลยตอนนี้ ผมมีแต่บอกว่าส่วนนึงผมขอทำบุญให้น้องแตงโม ส่วนคุณแม่จะจ่ายให้ผมเท่าไหร่ก็เป็นอีกเรื่องนึง
ก่อนทำบุญให้น้อง เอาไปใช้หนี้เขาก่อน ?
กฤษณะ : ตอนนี้ผมไม่กล้าเอ่ยปากกับคุณแม่นะครับ เพราะจริงๆ แล้วบอกกับคุณแม่ขอแค่ค่าน้ำมันค่าข้าวก่อน แค่นั้นพอ ในส่วนค่าจ้าง จริงๆ มรรยาททนายความก็ไม่ปฏิเสธได้ที่จะไม่รับค่าจ้าง ผมเลยบอกคุณแม่ว่าเดี๋ยวค่อยว่ากัน คุณแม่จะให้ผมเท่าไหร่ก็แล้วแต่ ไม่มีคิดเปอร์เซ็นต์ในการเรียกค่าเสียหาย ก็ไม่มีครับ
ส่วนนึงเป็นเพราะแม่ไปเปิดเรื่องทนายตั้มด้วยหรือเปล่า ที่บอกว่าเขาเป็นอย่างโน้นอย่างนี้อย่างนั้น?
กฤษณะ : ตรงนั้นคุณแม่เป็นคนคิดเองหมดเลย ผมไม่เคยได้ถามคุณแม่ ณ จุดนี้ผมไม่เคยไปสอนคุณแม่ หรือบอกคุณแม่ให้พูดแบบนี้ ผมสาบานต่อสิ่งศักดิ์สิทธิ์ที่นี่ ผมไม่เคยเลยจริงๆ แม่เป็นคนพูดเองทั้งหมด
เคยเตือนแม่มั้ย?
กฤษณะ : จริงๆ แล้วผมเคยบอกคุณแม่แล้ว และทางคุณดายศก็ยังบอกให้ผมเตือนคุณแม่ให้หน่อย
แม่เขาฟังมั้ย?
กฤษณะ : ก็นี่แหละครับ ผมก็ไม่กล้าไปบีบบังคับท่านว่าต้องไม่พูดนะ แต่ก็ให้ข้อแนะนำไปว่ายังไม่สมควรพูด
เมื่อกี้ขับรถมาได้คุยกับแม่มั้ย?
กฤษณะ : ยังไม่ได้คุยครับ
รู้มั้ยทำไมแม่ถึงไม่ให้มาออกรายการโหนกระแส?
กฤษณะ : ไม่ทราบจริงๆ ที่ผมตัดสินใจมา ผมก็ฝ่าฝืน
กลัวเขาไม่จ้างต่อมั้ย?
กฤษณะ : ตรงนี้ผมมั่นใจว่าคุณแม่จะจ้างผมอยู่ ผมไม่คิดเลยว่าคุณแม่จะไม่จ้างผม
ทำไมถึงคิดอย่างนั้น?
กฤษณะ : ผมทำด้วยใจ และผมก็ตั้งใจจริงๆ ที่จะทำคดีนี้
เรื่องนี้ไม่ได้อยู่ที่ใจอย่างเดียว?
เดชา : ต้องมีทริก มีฝีมือ มีประสบการณ์
มองว่าเป็นเรื่องทริก การต้องมีไหวพริบ ความเคี่ยวต่างๆ นานา?
เดชา : เพราะมีแต่คนโกหกทั้งนั้นคดีนี้ ถามว่าใครพูดความจริงหรือยังเรื่องนี้
กฤษณะ : ตอนนี้ผมยังไม่ได้เข้าไปดูสำนวน ผมเลยยังไม่เห็น เพราะพอเพิ่งได้แต่งตั้งมา ก็ไปที่แรกเลยคือกรรมาธิการ หลังจากนั้นก็ติดรายการ
ไปกรรมาธิการก็ถูกเปิดแฉทันที ตอนนี้มีผู้เสียหายกี่คน?
กฤษณะ : ที่ผมจำได้ ที่ผมไปยืมเงินเขาไว้ น่าจะ 7-8 คน
เป็นสิบ?
กฤษณะ : ถ้าเขามีหลักฐานก็ต้องให้เขาแสดงให้ผมเห็นแล้วในส่วนนั้น
ผมน่ะมี แทบจะทั้งคอนโดคุณเลยที่คุณพักอยู่?
กฤษณะ : ครับๆ
เดชา : อยากฝากอะไรถึงผู้เสียหายที่ส่วนใหญ่เป็นนักศึกษาที่คุณเป็นติวเตอร์สอนมั้ย พูดออกอากาศไปเลย มันจะได้จบเลย
กฤษณะ : ผมก็ขอฝากด้วยนะครับ น้องๆ ที่ผมเคยเป็นติวเตอร์ ผมยินดีที่จะชดใช้เงินคืนให้ แต่ว่าตอนนี้ยังไม่มีเงินเป็นก้อน ก็อยากขอผ่อนชำระให้กับน้อง โดยที่อาจขอความเมตตาจากอาจารย์เดชา เป็นตัวกลางทำสัญญา เพื่อให้น้องสบายใจด้วย ผมก็ไม่อยากเอาเปรียบน้องแล้ว ผมยอมรับแบบลูกผู้ชาย กล้าทำก็ต้องกล้ารับ
เดชา : ผู้สื่อข่าวฝากมาถามหลายช่องเลย ว่าถ้าเขาไม่แฉ เราจะออกมาพูดเรื่องชำระหนี้มั้ย เพราะผ่านมาตั้งนานแล้วไม่ใช้หนี้เขา
กฤษณะ : ในใจถามว่าอยากใช้มั้ย ตอนนี้ผมยังไม่มีเงิน ผมก็เลยยังไม่อยากใช้ตอนนี้ แต่คิดว่าถ้าผมว่าความก็จะเริ่มสะสม เพราะกระดูกพ่อแม่ก็อยู่อุดรฯ ผมยังไม่มีโอกาสกลับไป ก็คิดว่าอยากจะเคลียร์ตรงนี้ด้วย
คนที่ดูอยู่อาจสงสารทนาย ผมก็สงสาร แต่เรื่องคดีความคุณก็ต้องแยก ประเด็นข้อเท็จจริงที่คุณต้องไปต่อสู้ให้แตงโมก็อีกเรื่องนึง ข้อเท็จจริงของคุณก็ต้องไปเคลียร์ เพราะเรามองในมุมผู้เสียหายที่มาร้องด้วย?
กฤษณะ : ผมขอโอกาส สิ่งไหนที่ทำผิดพลาดไป ผมยอมรับกับสิ่งที่เกิดขึ้นในวันนี้ และสิ่งที่จะเกิดขึ้นในอนาคต ผมยอมรับและยอมชดใช้ ผมจะหาเงินชำระหนี้ด้วยวิธีการสุจริต จะไม่เป็นเหมือนเดิมอีก ให้โอกาสผม ผมมั่นใจว่าคดีนี้ผมสามารถทำได้ ผมจะหาที่ปรึกษาอย่างเช่นอ.เดชาหรือท่านที่มีความรู้ในการช่วยคดีนี้
ข้อเท็จจริงที่เขาถูกถล่ม ถูกแฉ ก็ไม่เกี่ยวกับคดีน้องแตงโม ก็ต้องให้โอกาสเขาด้วยเหมือนกัน ที่เขามาวันนี้เขาอยากมายอมรับว่าผิดจริง และอยากขอโทษจริงๆ กับเรื่องที่เกิดขึ้น คุณให้ผมถามคำถามคุณด้วยซ้ำว่าให้ผมถามแบบนี้?
กฤษณะ : ผมยอมรับด้วยลูกผู้ชาย นามสกุลผมศรีบุญพิมพ์สวยยินดีชดใช้นะครับ และขอเริ่มต้นกับการทำคดีนี้ และเป็นทนายที่ดี ถึงอะไรจะเกิดขึ้นในอนาคตผมน้อมรับและยอมที่จะแก้ไขนะครับ
เดชา : ขอเป็นกำลังใจให้นะ
บอกแม่อย่าเกลียดผมนะ กลัวไปงานแตงโมแล้วจะโดนไล่ออกมา?
กฤษณะ + เดชา : (หัวเราะ)
Social Plugin