กรุงเทพฯ – 20 ตุลาคม 2563 – ความเจ็บป่วย ไม่ได้กล้ำกรายเพียงร่างกายของผู้ป่วย หากแต่ยังกัดกินความหวังในหัวใจสร้างภาระค่าใช้จ่ายให้ผู้ป่วยและครอบครัวยากเกินจะหลีกเลี่ยง การทำงานแบบสหวิชาชีพในโรงพยาบาล หรือการพึ่งพาและการทำงานร่วมกันของศาสตร์หลากหลายแขนง จึงถูกนำมาใช้เป็นแนวทางในการดำเนินงาน อย่าง งานสังคมสงเคราะห์ ศาสตร์ของการช่วยเหลือ เพื่อให้ทุกปัญหาของผู้ป่วยได้รับการดูแลอย่างครอบคลุม
มูลนิธิรามาธิบดี ในพระราชูปถัมภ์สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี ในฐานะองค์กรการกุศลผู้เป็นหนึ่งในฟันเฟืองสำคัญในการสนับสนุนงานด้านการแพทย์และสาธารณสุขที่อยู่เคียงข้างคนไทยมาอย่างยาวนาน ขอแนะนำให้รู้จักบทบาทของ “นักสังคมสงเคราะห์” อีกหนึ่งด่านหน้าสำคัญในการให้ความช่วยเหลือผู้ป่วยยากไร้ และร่วมทำงานเคียงบ่าเคียงไหล่ทีมแพทย์ พยาบาลและบุคลากรทางการแพทย์ เนื่องในโอกาส วันสังคมสงเคราะห์แห่งชาติ 21 ตุลาคม ของทุกปี
การช่วยเหลือที่ยิ่งใหญ่
“มีผู้ป่วยจำนวนไม่น้อยที่ไม่เพียงต้องการความช่วยเหลือทางด้านร่างกาย หากแต่ยังมีบาดแผลทางจิตใจ หรือมีความจำเป็นในด้านอื่น เช่น
ความรู้ ความเข้าใจในโรค รวมถึงวิธีการปฎิบัติตัว หลายคนมีปัญหาด้านการเงินและสังคม เช่น รายได้ที่ลดลง หรือแม้แต่การปรับตัวหรือความสัมพันธ์
กับคนรอบข้าง เป็นต้น เมื่อได้รับการช่วยเหลือทางการแพทย์แล้ว นักสังคมสังเคราะห์จึงเข้ามามีบทบาทสำคัญในการช่วยให้คำปรึกษาผู้ป่วยและครอบครัวให้มีความพร้อมในการฟื้นฟู
ด้วยการสนับสนุนให้ผู้ป่วยทุเลาจากความเจ็บป่วยและปัญหาด้านสังคม เช่น การฝึกอาชีพผู้พิการ การปรับปรุงที่พักอาศัยและเยี่ยมบ้านติดตาม รวมทั้งการ
ส่งต่อหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเพื่อการดูแลอย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะผู้ป่วยที่มาจากต่างจังหวัด เป็นต้น เพื่อให้ผู้ป่วยและครอบครัวมีความเป็นอยู่ที่ดีขึ้นและสามารถอยู่ในสังคมได้อย่างปกติสุข ซึ่งเหล่านี้ล้วนหนุนให้เกิดผลดีต่อสังคมและเศรษฐกิจของประเทศทั้งทางตรงและทางอ้อม บทบาทการเป็นผู้ให้ของนักสังคมสงเคราะห์ในสังคม จึงเสมือนเป็นแรงกระเพื่อมของน้ำที่ถูกส่งต่อจากจุดเล็กๆ เป็นวงกว้างและสร้างความเปลี่ยนแปลงได้อย่างมหาศาล” รศ.นพ.สุรศักดิ์ ลีลาอุดมลิปิ ผู้อำนวยการโรงพยาบาลรามาธิบดี และประธานคณะกรรมการอำนวยการโรงพยาบาลในกลุ่มสถาบันแพทย์แห่งประเทศไทย (UHOSNET) กล่าว
พลังแห่งความเกื้อกูล สร้างสังคมแห่งการให้
โรงพยาบาลรามาธิบดี ปัจจุบันมีผู้เข้ารับการรักษากว่า 2 ล้านคนต่อปี ดำเนินการให้ความช่วยเหลือและดูแลผู้ป่วยตามมาตรฐานสถานพยาบาลในหลากหลายมิติ และการเชื่อมั่นในหลักสิทธิมนุษยชนและคุณค่าของความเป็นมนุษย์ รวมถึงสนับสนุนและพัฒนางานด้านวิทยาศาสตร์การแพทย์ในระดับประเทศ ผ่าน 4 พันธกิจสำคัญ อันได้แก่ จัดการศึกษา สร้างงานวิจัย ให้การบริการวิชาการ และดูแลสุขภาพ เพื่อสุขภาวะของสังคม โดยที่ผ่านมาได้รับการสนับสนุนอันดีจากพลังความช่วยเหลือของประชาชนผู้มีจิตศรัทธาที่ร่วมสมทบทุนผ่าน มูลนิธิรามาธิบดีฯ ในโครงการต่างๆ เช่น โครงการเพื่อผู้ป่วยยากไร้ โครงการปลูกถ่ายเซลล์ต้นกำเนิด โครงการจัดซื้อเครื่องมือแพทย์ สร้างห้องไอซียูความดันลบ เพื่อสถาบันการแพทย์จักรีนฤบดินทร์ เป็นต้น
“เนื่องในโอกาสวันนักสังคมสงเคราะห์แห่งชาติ ผมในฐานะประชาชนคนไทย ขอเชิญชวนทุกคนให้ความสำคัญกับการสร้างและปลูกฝังให้เกิดความพร้อมทางด้านจิตใจ ความเห็นอกเห็นใจ รวมถึงการเปิดใจเพื่อให้มองเห็นความสำคัญของทุกชีวิต เพื่อการอยู่ร่วมกันอย่างผาสุข ซึ่งเป็นค่านิยมสำคัญที่สังคมพึงมีและพึงดำเนินต่อไปอย่างไม่สิ้นสุด ท่ามกลางความผันผวนด้านเศรษฐกิจ สังคม และสุขภาวะอนามัย
ที่กำลังดำเนินอยู่อย่างต่อเนื่องในขณะนี้ ไม่ว่าวันนี้คุณจะมีบทบาทหรือหน้าที่ใดในสังคม ทุกคนสามารถช่วยเหลือให้ประเทศชาติก้าวข้ามวิกฤตต่างๆ ได้ ร่วมเป็นส่วนหนึ่งในการสร้างสังคมแห่งการให้… ผ่านการร่วมสมทบทุนกับ
มูลนิธิรามาธิบดีฯ เพื่อส่งต่อพลังแห่งความเกื้อกูล เติมเต็มโอกาสและคุณภาพชีวิตที่ดียิ่งขึ้นให้กับพี่น้องคนไทยทุกคนต่อไป
ดังปณิธานที่ว่า คำว่าให้…ไม่สิ้นสุด” รศ.นพ.สุรศักดิ์ กล่าวปิดท้าย
#คำว่าให้ไม่สิ้นสุด
####
Social Plugin