
“ลีซอ” เปิดหมดเปลือกถึงเรื่องการประกาศเลิกเล่นฟุตบอลว่า “คือผมคิดในใจมาหลายเดือนแล้วว่าจะเล่นต่อหรือไม่ จะรอเล่นจนจบฤดูกาลก่อนไหม แต่ด้วยปัจจัยหลายๆอย่าง ทั้งเรื่องอายุ เรื่องงานนอกสนามค่อนข้างเยอะ เรื่องการเล่นในสนามด้วย หลังๆเราเป็นตัวสำรอง ด้วยวิธีการของทีม ผมก็เข้าใจโค้ชนะครับ เราก็เลยคิดว่าน่าจะถึงเวลาของเราแล้ว ผมก็ปรึกษาคุณพ่อคุณแม่ว่าถ้าผมอยากเลิกเล่นแล้ว พ่อแม่จะว่าอย่างไร เขาก็บอกว่าให้เลิกเล่น อยากให้หันมาโฟกัสงานอื่น โฟกัสธุรกิจมากขึ้น ก็เลยคิดว่าผมเลิกเล่นปีนี้ดีกว่า พอเริ่มปีใหม่เราจะได้เริ่มต้นอะไรใหม่ๆ เดินทางในบทบาทใหม่ๆ ก็ใจหายเหมือนกันนะครับ เพราะผมเล่นฟุตบอลมา23 ปี ที่ผ่านมาเป็นความทรงจำที่ดีมากนะครับ ข้อผิดพลาดคือบทเรียน ถ้าทำแล้วสำเร็จคือชื่อเสียง คือเกียรติยศครับ”
พร้อมเปิดเผยถึงข้อคิดต่างๆของการอยู่ในวงการฟุตบอลมาอย่างยาวนานว่า “ผมเป็นคนที่มุ่งมั่น ผมมีความแน่วแน่ทุกอย่างๆที่ผมทำ คือมันออกมาจากการตัดสินใจของผมล้วนๆไม่ว่าจะเป็นการเล่นแบบเข้าบอลหนัก การเล่นแบบสไลด์แรงๆหรือเถียงกรรมการ (หัวเราะ) ผมไม่ได้มองว่าเป็นข้อผิดพลาด คืออย่างน้อยสิ่งที่เราทำคือเราตัดสินใจเอง ผมรับผิดชอบเอง มันคือครูสอนเราครับ และผมก็คิดอยู่เสมอว่าการที่เราจะเป็นเบอร์หนึ่ง มันจะต้องมีความกล้าได้กล้าเสีย ชีวิตคือการเดิมพัน ถ้าเราทำได้คือฮีโร่ แต่ถ้าทำไม่ได้เราก็ต้องยอมรับเสียงวิจารณ์ ผมเลยตัดสินใจว่าเราจะไม่เป็นคนครึ่งๆกลางๆ ไม่เล่นเพราะกลัวโดนด่า ไม่ทำเพราะกลัวคำวิจารณ์ ผมกล้าได้กล้าเสียครับ มันน่าจดจำนะครับ ผมอยากถ่ายทอดให้คนอื่นได้รับรู้เรื่องเหล่านี้ครับ”
เรื่องราวของหนุ่ม “ลีซอ” ยังไม่จบเพียงเท่านี้ ผู้ชมสามารถรับชมกับแบบเต็มๆได้ในรายการ “Main Stand Talk” ทางช่องยูทูบ Mainstand Thailand และทุกช่องทางของ Main Stand รับรองสนุกและไม่ผิดหวังอย่างแน่นอน
Social Plugin