ถือเป็นอีกหนึ่งบุคคลสำคัญที่เป็นทั้งนักเขียน
นักแปล และนักประพันธ์นวนิยายชื่อดัง สำหรับคุณ “ถ่ายเถา สุจริตกุล” ที่ได้สร้างผลงานนวนิยายดังมากมาย
อาทิ กล้วยไม้จากซานฟราน, มงกุฎดอกส้ม, ดอกส้มสีทอง ตุ๊กตาในป่าหนาว
ฯลฯ และยังเป็นเจ้าของรางวัลสุรินทราชา รางวัลราทิพย์ ฯลฯ จนผู้จัดละครหลายคน
หลายค่ายต่างคอยจับจ้อง ที่จะนำผลงานชิ้นดังขึ้นหิ้งชั้นครูของเธอ มาต่อยอดให้เป็นบทละครโทรทัศน์
หนึ่งในนั้นก็คงไม่พ้น นวนิยายเรื่องดังที่เป็นกระแสอยู่ในตอนนี้ อย่าง “เรยา” ที่ผู้จัด
ถา-สถาพร นาควิไลโรจน์ ได้ขอลิขสิทธิ์โดยตรง มาทำเป็นละคร ให้กับทางสถานีโทรทัศน์ช่อง
8 จนเป็นที่พูดถึงในสังคมถึงการรอคอยที่จะดูละคร จากนวนิยายดังเรื่องนี้ในวันจันทร์
8 มีนาคม เวลา 19.00 น. ตอนแรก และรับชมย้อนหลังได้ผ่านแอปพลิเคชัน AIS
PLAY เท่านั้น งานนี้ได้มีโอกาสเจอคุณถ่ายเถา เลยขอนั่งสัมภาษณ์ถึงความเป็นมา
“ก่อนเริ่มต้นมาเขียนนวนิยาย?”
หลาย
ๆ คนคงทราบกันมาบ้างแล้วว่าก่อนเขียนนวนิยายเคย
ดิฉันแปลหนังสือมาก่อน จนมีอยู่วันหนึ่งดิฉันคิดอยากลองเขียนนวนิยายบ้าง เลยใช้เค้าโครงจากนวนิยายของจีนมาดัดแปลง
จนเกิดเรื่อง “มงกุฎดอกส้ม” ตอนนั้นดิฉันอยู่ที่อเมริกา และได้เขียนส่งลงนิตยสารรายปักษ์ พอเริ่มได้ 2-3 บท ก็ปรากฏว่ามีนักสร้างละครโทรทัศน์โทรศัพท์ทางไกลจากกรุงเทพฯ
มาขอไปทำละคร แต่ฉันบอกให้รอก่อน เพิ่งอ่านไม่กี่บท เรื่องราวอาจจะไม่สนุกอย่างที่คิดก็ได้
ที่บอกไปแบบนั้นเพราะดิฉันเป็นคนต้องการให้ความยุติธรรมกับทุกคน
จนสุดท้ายก็ได้ทำ เมื่อมีการทำภาค 2 “ดอกส้มสีทอง”
ปรากฏว่ามีคนสนใจมาก ตอนนั้นก็ตกใจเหมือนกัน
เพราะไม่เคยคิดว่าตัวเองเป็นนักประพันธ์มืออาชีพ แต่เป็นแค่นักเขียนมือสมัครเล่นที่บังเอิญโชคดีได้เงิน
ทำไมถึงเขียน “เรยา” หลังจากภาคก่อน 2 ปี ซึ่งจริงๆตอนนั้นดังมาก
ถ้าเขียนต่อเลยคนก็จะยิ่งตาม?”
ตอนนั้น “ดอกส้มสีทอง” อยู่ในจุดสูงสุดของตัวมันอยู่แล้ว
ดิฉันคิดว่าถ้ายื้อต่อไปในทันทีที่จบ อย่างเก่งก็แค่เสมอตัว แต่มีโอกาสก็ดิ่งลง จึงตัดสินใจพักไว้ก่อนเพื่อรอเวลาที่เหมาะสม หลังจากนั้น 2 ปี จึงลงมือเขียน “เรยา”ซึ่งเป็นภาคอวสานของนวนิยายชุดดอกส้ม
เราสร้างตัวละครขึ้นมาแล้ว มันต้องมีที่มาที่ไปและถึงจุดจบในที่สุด
เรยาไม่ได้มาจากจินตนาการเท่านั้น
แต่จากประสบการณ์จริง?
“นวนิยายของดิฉันแต่ละเรื่อง ดิฉันใช้จินตนาการเป็นส่วนน้อย แต่ใช้ประสบการณ์ที่เคยสัมผัสมาด้วยตัวเองมาเป็นองค์ประกอบ
รวมทั้งสิ่งที่เกิดขึ้นจริงๆ
ในชีวิตมนุษย์ เคยมีนักอ่านท่านหนึ่งถามดิฉันว่าทำไมชอบทรมานใจคนอ่าน ในเมื่อเรยาร้ายกาจขนาดนี้ ทำไมไม่เขียนให้ถูกฟ้าดินลงโทษให้สาสม เช่นถูกธรณีสูบ ฟ้าผ่าตายหรืออะไรทำนองนั้น ดิฉันตอบเธอไปว่าชีวิตคนเราจริง ๆ
เป็นแบบนั้นหรือคะ คนทำเลวได้ดีเยอะแยะไป ส่วนคนทำดีไม่มีใครมองเห็นก็มาก นวนิยายของดิฉันยึดติดกับวิสัยปุถุชนธรรมดา ไม่มีใครเลวจนไม่มีอะไรดีเสียเลย คนที่ว่าดีก็ไม่เลิศจนทำความเลวไม่เป็น แต่ถึงอย่างไร
มนุษย์ทุกคนมีเหตุผลให้กับตัวเองเสมอ
ทำดีทำชั่วมีเหตุผลของตัวเองทั้งนั้น อย่างเช่นเรยา ทุกสิ่งที่ทำลงไป ไม่ว่าดีเลวอย่างไร เรยาก็มีเหตุผลที่เข้าข้างตัวเอง เรยาเป็นอย่างนี้เกิดจากใคร เพราะอะไร ฯลฯ เรยามีเหตุผลรองรับการกระทำของตัวเองตลอด
ถึงแม้ทุกคนจะประนามเรยาเรื่องมีสามีหลายคน
แต่อย่าลืมนะคะว่าจริง ๆ แล้วเธอมีทีละคน มีชู้ทางใจไม่ผิดบาปอะไรใช่ไหม ถ้าสังเกตดี ๆ
จะเห็นว่าดิฉันเข้มงวดเรื่องความถูกต้องและศีลธรรมในนวนิยายของดิฉันเสมอ
หลาย
ๆ คนอยากเห็นจุดจบของเรยา?”
คงต้องรอดู
ทุกคนมีจุดจบของตัวเองกันทั้งนั้น
เรยาก็เช่นกัน อย่าลืมว่าคนเราเลือกเกิดไม่ได้ แต่เลือกที่จะดูดซับสิ่งที่ดีรอบตัวได้
แต่ถึงอย่างไรคนที่ได้รับการศึกษามักมีโอกาสมากกว่าคนที่มีการศึกษาน้อย
เรยาบังเอิญไม่ชอบเรียนหนังสือซึ่งเป็นเรื่องปกติของเด็ก
ๆ เธอเป็นเพียงมนุษย์คนหนึ่งที่อยากได้ใคร่ดีและดิ้นรนเพื่อไปให้ถึงความฝัน เรยาผิดร้ายนักหรือ
“พลอยมารับบทเรยา?”
ดีใจค่ะที่พลอยมารับบทเรยา
ดิฉันติดตามผลงานของเธอมาแล้วหลายเรื่อง คิดเลยว่าผู้หญิงคนนี้นอกจากสวย ฝีมือการแสดงของเธอยังอยู่ในระดับเด่นจริง
ๆ พลอยเหมาะมากสำหรับบท “เรยา”
“สิ่งที่อยากบอกแฟน
ๆ ที่ตั้งหน้าตั้งตารอ?”
ไม่อยากให้ดู
“เรยา” เพื่อความบันเทิงอย่างเดียว แต่อยากให้ใช้เป็นแง่คิดลึก ๆ ถึงเหตุถึงผลของการกระทำของตัวละครซึ่งเป็นเพียงมนุษย์ธรรมดา
ๆ อะไรไม่ถูกไม่ควร ก็อย่าจดจำเป็นแบบอย่าง แต่ใช้วิจารณญาณคัดกรองและนำสิ่งที่เป็นประโยชน์มาปรับใช้ในชีวิตค่ะ
Social Plugin